สดร.
ชวนคนไทยชมปรากฎการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ครั้งแรกของปี วันที่ 31 ม.ค.
สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่านานกว่าชั่วโมงได้ทุกพื้นที่ของประเทศ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน)
(สดร.) ชวนคนไทยชมปรากฎการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ครั้งแรกของปี วันที่ 31 มกราคมนี้
สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่านานกว่าชั่วโมงได้ทุกพื้นที่ของประเทศ ตั้งแต่เวลาประมาณ
19.51 - 21.07 น. ทางทิศตะวันออก
นายศรัณย์
โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร.
กล่าวว่า วันที่ 31 มกราคม จะเกิดปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ครั้งแรกของปีนี้
ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.51 - 21.07 น. จะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงนาน 1 ชั่วโมง 16
นาที สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศทางทิศตะวันออกในช่วงหัวค่ำ
ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นไป ที่ตรงกับช่วงที่ดวงจันทร์โคจรอยู่ใกล้โลก
จะมองเห็นดวงจันทร์มีขนาดปรากฎใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย โดยดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลา
17.51 น. จากนั้นค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลก
เกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลา 18.48 น.
และเข้าสู่จันทรุปราคาเต็มดวงตั้งแต่เวลา 19.51 น.
ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวงจะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง
เมื่อสิ้นสุดปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงหลังเวลา 21.07 น. ไปแล้ว
ดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกกลายเป็นจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้ง
จนกระทั่งออกจากเงามืดของโลกหมดทั้งดวงในเวลา 22.11 น.
แล้วเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัวที่สังเกตเห็นได้ยาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงความสว่างของดวงจันทร์จากเงามัวของโลกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แล้วสุดท้ายดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 23.08 น.
ถือว่าสิ้นสุดปรากฎการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้
ปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในไทยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
(องค์การมหาชน) หรือ สดร.
กล่าวย้ำว่าปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ในครั้งนี้สามารถเห็นได้หลายพื้นที่ทั่วโลก คือ
ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปเอเชีย
บริเวณตอนเหนือและตะวันออกของทวีปยุโรป ตอนเหนือและตะวันออกของทวีปแอฟริกา
ตอนเหนือและตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก
และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน
โดยโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์
ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลก
ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปทีละน้อยจนดวงจันทร์เข้าไปอยู่เงามืดทั้งดวง
แล้วจะเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก
ช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกบางส่วนจะเรียกว่า “จันทรุปราคาบางส่วน” และช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง
เรียกว่า “จันทรุปราคาเต็มดวง” จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ
เนื่องจากได้รับแสงสีแดงซึ่งเป็นคลื่นที่ยาวที่สุดหักเหผ่านบรรยากาศโลกไปกระทบกับดวงจันทร์